โรงงานซีเมนส์ใน Erlangen ได้รับเลือกให้เป็น Digital Lighthouse Factory จาก World Economic Forum
Global Lighthouse Network โดย World Economic Forum คือกลุ่มเครือข่ายโรงงานการผลิตชั้นนำ
การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ดิจิทัลทวิน (Digital Twin) และหุ่นยนต์มาใช้ในโรงงาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในโรงงานของซีเมนส์ที่ Erlangen ถึง 69% และลดการใช้พลังงานลง 42%
โรงงานแห่งนี้ยังประสบความสำเร็จในการเริ่มผลิตเซมิคอนดักเตอร์สำหรับอุปกรณ์แปลงความถี่ประสิทธิภาพสูงภายในโรงงาน
World Economic Forum (WEF) รับรองโรงงานของซีเมนส์ในเมือง Erlangen ประเทศเยอรมนี เป็นDigital Lighthouse Factory ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Global Lighthouse Network สถานะนี้ WEF มอบให้กับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในกลุ่มของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4
ด้วยการใช้แนวทาง Green Lean Digital ซึ่งผสมผสานระหว่างนวัตกรรมเทคโนโลยีและแนวปฏิบัติที่ยั่งยืน โรงงานแห่งนี้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้ถึง 69% และใช้พลังงานลดลง 42% ในระยะเวลาสี่ปี
A person wearing a white robe and a mask
Description automatically generated
ความสำเร็จในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในห้องปลอดเชื้อ
เมื่อปีที่แล้วซีเมนส์ได้ประกาศว่าจะลงทุน 500 ล้านยูโรในการวิจัยและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเมือง Erlangen โดยวางเป้าหมายให้เป็นศูนย์กลางด้านการวิจัยและพัฒนาระดับโลก พร้อมเป็นแกนหลักของการทำกิจกรรมด้านเทคโนโลยีสำหรับเมตาเวิร์สภาคอุตสาหกรรมในระดับโลก
โรงงานของซีเมนส์ที่ Erlangen นี้เป็นโรงงานแห่งที่สามของซีเมนส์ที่ได้รับการรับรองจาก WEF ให้เป็นหนึ่งในโรงงานที่ทันสมัยที่สุดในโลก ต่อจากโรงงานในเมือง Amberg ประเทศเยอรมนี และโรงงานในเมือง Chengdu (เฉิงตู) ประเทศจีน
เซดริค ไนเค สมาชิกของคณะกรรมการบริหาร ซีเมนส์ เอจี และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจ Digital Industries กล่าวว่า “การได้รับสถานะนี้ตอกย้ำถึงความสร้างสรรค์ของทีมงานที่ Erlangen ของเรา การนำเทคโนโลยีเช่น AI ดิจิทัลทวิน และหุ่นยนต์มาใช้ได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตขึ้นถึง 69% ลดการใช้พลังงานลง 42% และยังเป็นการสร้างต้นแบบพิมพ์เขียวให้กับเมตาเวิร์สของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งการได้รับสถานะนี้เป็นกำลังให้เราเดินหน้าดำเนินการตามเป้าหมายด้านความยั่งยืนของเราอย่างต่อเนื่อง และช่วยลูกค้าของเราให้มีความยืดหยุ่นและยั่งยืนมากขึ้น”
นวัตกรรมเทคโนโลยีและแนวปฏิบัติที่ยั่งยืน
ด้วยการนำเทคโนโลยี AI มาปรับใช้ในกว่า 100 กรณีการใช้งานจริง ร่วมกับเทคโนโลยีดิจิทัลทวิน โรงงานสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ โรงงานยังได้นำแนวทางนวัตกรรมเพื่อลดการเกิดของเสียมาใช้ โดยมุ่งใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุดและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
สเตฟาน ชเลาส์ ผู้จัดการโรงงาน กล่าวว่า “โรงงานของซีเมนส์ใน Erlangen มีเป้าหมายที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำในการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (energy transition) การได้มาซึ่งสถานะนี้ถือเป็นการตอกย้ำความทุ่มเทของพนักงานทุกคนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และยังเป็นแรงจูงใจให้เราไม่หยุดนิ่งที่ความสำเร็จ แต่พร้อมพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น”
โรงงานแห่งนี้สร้างความประทับใจให้กับคณะกรรมการของ WEF ด้วย 5 กรณีการใช้งานจริงของเทคโนโลยีดิจิทัลในสภาพแวดล้อมการผลิต ตัวอย่างที่โดดเด่นคือโครงการผลิตเซมิคอนดักเตอร์เองในโรงงาน ห้องปลอดเชื้อสำหรับการผลิตถูกสร้างขึ้นในเวลาเพียง 11 เดือนเพื่อผลิตเซมิคอนดักเตอร์สำหรับอุปกรณ์แปลงความถี่ SINAMICS รุ่นล่าสุด ด้วยแพลตฟอร์มการวิเคราะห์ข้อมูลแบบครบวงจร ทำให้ลดการใช้พื้นที่ใช้สอยลง 50% ลดการใช้วัสดุลง 40% ขณะที่ยังคงรักษาประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
เกี่ยวกับซีเมนส์
ซีเมนส์เอจี (เบอร์ลินและมิวนิค) เป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ทางด้านอุตสาหกรรม โครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคมขนส่ง และการดูแลสุขภาพ บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับชีวิตผู้คนในทุก ๆ วัน ซีเมนส์สนับสนุนลูกค้าของเราในการเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและความยั่งยืนด้วยการผสานโลกจริงและโลกดิจิทัลเข้าด้วยกัน ทำให้โรงงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมืองน่าอยู่มากขึ้น และระบบการขนส่งยั่งยืนยิ่งขึ้น ซีเมนส์เป็นผู้ถือหุ้นหลักในซีเมนส์ เฮลทิเนียร์ส ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์
ในปีงบประมาณ 2566 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อ 30 กันยายน 2566 กลุ่มธุรกิจของซีเมนส์สร้างรายได้ 74.9 พันล้านยูโร และมีผลกำไร 8.5 พันล้านยูโร ซีเมนส์มีพนักงานประมาณ 305,000 คนทั่วโลกบนพื้นฐานของการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.siemens.com