“เอ้ก ดิจิทัล” เปิดวิสัยทัศน์ใหม่ ปักธงสู้ศึกตลาดบิ๊กดาต้าและมาร์เทค รับปี 67

“เอ้ก ดิจิทัล” เปิดวิสัยทัศน์ใหม่ ปักธงสู้ศึกตลาดบิ๊กดาต้าและมาร์เทค รับปี 67

“เอ้ก ดิจิทัล” เปิดวิสัยทัศน์ใหม่ ปักธงสู้ศึกตลาดบิ๊กดาต้าและมาร์เทค รับปี 67

ประสานพลังดาต้าร่วมกับเทคโนโลยี, AI และ ML เร่งสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้ทุกธุรกิจ

กรุงเทพฯ 7 ธันวาคม 2566 – เอ้ก ดิจิทัล เผยผลการดำเนินงาน 10 เดือน มีรายได้เติบโต 30% พร้อมลุยตลาดบิ๊กดาต้าและมาร์เทคปี 2567 ประกาศรีเฟรช แบรนด์ ก้าวสู่วิสัยทัศน์ที่เน้นการประสานพลังดาต้าร่วมกับเทคโนโลยี, AI, ML และ First Party Data แบบ 720 องศา ชูจุดแข็งวิเคราะห์อินไซต์ได้แม่นยำแล้วทรานส์ฟอร์มให้เป็นกลยุทธ์และแผนการตลาดที่เหนือชั้น ช่วยสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้กับลูกค้าด้วยบริการภายใต้ 3 บิสสิเนสยูนิต (BU) ทั้งด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก สื่อโฆษณาครบวงจร และดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อช่วยทุกองค์กรเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล เพิ่มศักยภาพ และความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจรอบด้าน เพิ่มรายได้ ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย บริหารความเสี่ยง รวมถึงสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ

ดร. ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า “ปีนี้ถือเป็นปีแห่งความสำเร็จของเอ้ก ดิจิทัล โดยระยะเวลา 10 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวมเติบโต 30% ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานที่โดดเด่นของทั้ง
3 บียู ได้แก่ ธุรกิจ Business Analytics & Development ธุรกิจ Insights-led Omnichannel Media และธุรกิจ Platform & Media Solutions และเพื่อเตรียมรุกตลาดในปี 2567 บริษัทฯ ได้รีเฟรช แบรนด์ ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ “To Catalyse Exponential Growth With The Power of Collaboration, Data and Technology” ที่มุ่งนำเสนอความเป็นเลิศให้กับลูกค้าด้วยการก้าวข้ามทุกข้อจำกัด พร้อมสร้างนิยามใหม่ของ Data-Driven Landscape ด้วยการผสานพลัง AI, ML และ First Party Data แบบ 720 องศาพร้อมด้วยบริการแบบ End-to-End Ecosystem”

“การทำงานภายใต้แบรนดิ้งใหม่นี้ บริษัทฯ ได้วางแนวทางการดำเนินงานอยู่ 2 ประการ คือ 1. เพิ่มศักยภาพของทุกธุรกิจด้วย AI เพราะการวิเคราะห์ AI คือ รากฐานสำคัญเพื่อใช้ในการพยากรณ์แนวโน้มอุตสาหกรรมและพฤติกรรมผู้บริโภคอีกทั้งการวางกลยุทธ์ที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจวางแผนการตลาดได้อย่างแม่นยำและก้าวนำคู่แข่งในตลาดอยู่เสมอ และ 2. นำเสนอนวัตกรรมสู่อุตสาหกรรม บริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับการลงทุนในด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ การพัฒนาศักยภาพบุคลากร และการปลูกฝังค่านิยมในการทำงานที่สอดรับกับความต้องการของลูกค้าและอุตสาหกรรม”

โดยทั้ง 3 บียูจะมีบทบาทสำคัญในการนำบิ๊กดาต้า, AI, และ ML มาช่วยทรานส์ฟอร์มให้เป็นกลยุทธ์และแผนการตลาดที่จะช่วยสร้างอิมแพคให้กับธุรกิจของลูกค้า อาทิ ธุรกิจ Business Analytics & Development ปลดล็อกศักยภาพการดำเนินงานและวางแนวทางกลยุทธ์และกิจกรรมขับเคลื่อนธุรกิจที่ชัดเจนให้กับลูกค้า โดยยังคงเจาะไปที่ลูกค้าใน 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายเป็นหลัก, ธุรกิจ Insights-led Omnichannel Media เน้นนำเสนอแผนการใช้สื่อโฆษณาครบวงจรที่มอบประสบการณ์แบบ Immersive Experience ให้กับผู้บริโภค สร้างการรับรู้และปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์สินค้ากับผู้บริโภคในทุกทัชพอยท์ ทั้งช่องทางออฟไลน์ ออนไลน์ และ Omnichannel และธุรกิจ Platform & Media Solutions เดินหน้ายกระดับการวางกลยุทธ์ด้าน CRM มีเดียและดิจิทัลโซลูชันให้ตอบโจทย์ธุรกิจทุกขนาดมากยิ่งขึ้น วางแผนและเชื่อมต่อการทำการตลาดและ CRM บนแพลตฟอร์มต่างๆ อย่างไร้รอยต่อเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ต่อเนื่องให้ผู้บริโภค พัฒนาการเข้าถึงผู้บริโภคในทุกทัชพอยท์ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับลูกค้า

นายวรภัทร งามเจตวรกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Business Analytics & Development บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า “ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ธุรกิจ Business Analytics & Development สามารถสร้างการเติบโตได้เกินเป้าหมาย โดยคว้าลูกค้าใหม่มาได้กว่า 20 แบรนด์ ด้วยศักยภาพของบริการ Business Analytics as a Service – Powered by AI Engine ที่เป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความสำเร็จทางธุรกิจให้กับลูกค้า ทั้งช่วยเพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่าย และลดความเสี่ยง ซึ่งในปี 2567 เรายังคงมุ่งโฟกัสไปที่ธุรกิจใน 5 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ ค้าปลีก ธุรกิจสื่อ การเงิน ประกันฯ และยานยนต์ โดยคาดการณ์ว่า ความต้องการบริการด้านวิเคราะห์ดาต้าเชิงลึกจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากธุรกิจต่างๆ เริ่มเห็นถึงข้อได้เปรียบของการใช้ดาต้าเชิงลึกมาเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดแนวทางการดำเนินธุรกิจกันมากขึ้น บริษัทฯ จึงต้องเร่งสร้าง Use Cases ที่ตรงจุดและเฉพาะเจาะจงในแต่ละอุตสาหกรรม เพื่อให้บริการของเอ้ก ดิจิทัล สามารถเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย สร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ด้านการวิเคราะห์ใหม่ๆ หลากหลายรูปแบบจากการผสานความเข้าใจเชิงลึกด้านธุรกิจ (Business Expertise), ด้านเทคนิค (Data Science – AI, ML), การจัดการข้อมูล (Data Engineer), และฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Mega Data – 360, 720) ให้กับลูกค้า เราวางแผนจะขยายกลุ่มเป้าหมายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยปีหน้าจะเริ่มรุกกลุ่มธุรกิจในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสานเป็นตลาดพื้นที่แรก เนื่องจากธุรกิจในพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงของประเทศทั้งเชิงยุทธศาสตร์ศักยภาพการเติบโต และสัดส่วนจำนวนประชากร รวมถึงต่อยอดธุรกิจในมาเลเซียให้สอดคล้องกับสภาพตลาดแนวโน้มในประเทศ รวมถึงโมเดลทางธุรกิจใหม่ๆ ที่จะสามารถเป็นรากฐานในการขยายบริการไปยังประเทศต่างๆ ตามแผนต่อไป”

นายชัชพล องนิธิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Insights-led Omnichannel Media บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า “ปีนี้เรากระตุ้นตลาดด้วยการเปิดตัวบริการใหม่ทุกไตรมาส โดยมีไฮไลต์สำคัญ คือ บริการสื่อนอกบ้าน หรือ Shoppers’ Digital Screen และเน้นนำเสนอบริการสื่อโฆษณาแบบ O2O2O (Online to Out-of-Home to On-Shelf) โดยเอ้ก ดิจิทัล เป็นรายแรกในเอเชียแปซิฟิกที่ใช้บิ๊กดาต้า, AI, ML และ Intelligent O2O2O Media Solution มาผสานการทำงานร่วมกัน เพื่อเปลี่ยนบิ๊กดาต้าเป็นข้อมูลเชิงลึก
วางกลยุทธ์การสื่อสาร สร้างสรรค์ครีเอทีฟดีไซน์ และคอนเทนต์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งเราสามารถช่วยแบรนด์ต่าง ๆ ขยายฐานลูกค้า เพิ่มยอดขาย โปรโมทสินค้า ฯลฯ ผ่านการสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอตลอดเส้นทาง ตั้งแต่สร้างการรับรู้ กระตุ้นการมีส่วนร่วม และการตอบสนองไปจนถึงปิดการขาย ส่งผลให้เราสามารถเพิ่มปริมาณการใช้สื่อและคว้าลูกค้าใหม่ได้ถึง 37 แบรนด์ จากที่มีฐานลูกค้าเดิมกว่า 200 แบรนด์ รวมถึงตอกย้ำความสำเร็จในการจัดแคมเปญการตลาดให้ลูกค้าด้วยการคว้ารางวัลที่ 1 Gold Award ความเป็นเลิศด้านการตลาดระดับ Gold ในประเภท Excellence in Omnichannel จากเวที Marketing Excellence Awards 2023 สำหรับแนวโน้มตลาดในปี 2567 มีความท้าทายที่การใช้สื่อโฆษณาจะไม่ใช่แค่การสร้างการรับรู้เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้างการตอบสนองต่อโฆษณาและการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ไปพร้อมกัน เพื่อช่วยเจ้าของแบรนด์ปิดการขาย ณ จุดขายได้ จึงเชื่อว่าการเชื่อมระหว่างสื่อ Personalized Online กับสื่อ On-Shelf และกิจกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่สาขาจะเข้ามามีบทบาทและกระตุ้นการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจึงจะคว้าโอกาสทางธุรกิจนี้ด้วยการขยายพื้นที่และแพลตฟอร์มสื่อ พร้อมผนวกบิ๊กดาต้าใหม่เข้าไปในกระบวนการดำเนินงาน เพื่อเจาะลึกอินไซต์ผู้บริโภคได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พร้อมช่วย
แบรนด์ให้เข้าถึง Omni-Customers ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

นางสาวรัฐธีร์ เจริญรัตน์วรกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Platform & Media Solutions บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า “ในปีนี้เรารุกเจาะตลาดอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ๆ ด้วยจุดเด่นของบริการด้านแพลตฟอร์มและดิจิทัลโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยดาต้าและเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเราสามารถขยายฐานไปยังอุตสาหกรรมการแพทย์และสถานเสริมสวยความงาม Residential SME พลังงาน แฟชั่น การท่องเที่ยว และหน่วยงานภาครัฐ โดยคว้าลูกค้าใหม่มาได้กว่า 100 แบรนด์ ซึ่ง 3 บริการที่ได้รับความไว้วางใจจากคู่ค้า คือ 1. LINE Media & Solutions Partner (CRM & BI platform) 2. Creative, Content & Media Solutions 3. Mobile Marketing & Analytics SMS เนื่องจากผู้บริโภคในยุคดิจิทัลใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆ เพิ่มมากขึ้น และมีการใช้หลากหลายแพลตฟอร์ม โดยพบว่า ผู้บริโภคใช้เวลาบนโซเขียลมีเดียประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งต่อวัน ดังนั้นในปีหน้าเราจะมุ่งขยายบริการใหม่ที่ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่มีไลฟ์สไตล์อยู่บนโลกโซเชียลมีเดียได้มากขึ้น รวมถึงใช้ดาต้า, AI และ ML ในการสร้างกิจกรรมสื่อสารการตลาดแบบ Hyper Personalized Marketing เพื่อช่วยให้แบรนด์ต่างๆ เพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

“ในโลกธุรกิจยุคดิจิทัลจะเห็นว่า ทุกองค์กรต่างมุ่งทรานส์ฟอร์มธุรกิจในหลากหลายด้าน โดยเฉพาะ 5 ด้านสำคัญอย่าง ด้านดิจิทัลและนวัตกรรม ด้านการบริหารบุคลากรและองค์กร ด้านการปฏิบัติการ ด้านการวางกลยุทธ์ และการเงินองค์กร รวมถึงด้านความยั่งยืน โดย AI และ Supervised Machine Learning เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมนำมาปรับใช้เพื่อยกระดับองค์กรสู่ดิจิทัล ซึ่งแนวทางการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ สอดคล้องกับความมุ่งหมายของเอ้ก ดิจิทัล ที่ต้องการใช้จุดแข็งในการมีบิ๊กดาต้า เทคโนโลยีขั้นสูงทั้ง AI, ML, Blockchain, แพลตฟอร์มสื่อครบวงจร และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญมาผสานการทำงานร่วมกัน เพื่อนำเสนอโซลูชันและบริการที่ตอบสองความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของแต่ละธุรกิจ บริษัทฯ จึงมั่นใจว่าเราจะช่วยสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน ลดอัตราการสูญเสียลูกค้า ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจของลูกค้าได้ไม่ต่ำกว่า 10% สร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้กับลูกค้า พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมบิ๊กดาต้าและมาร์เทคไทยให้เติบโตไปพร้อมกัน” ดร. ธีรเดช กล่าวทิ้งท้าย

ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ที่เมล์ : pr@prfreeonline.com Line : @649dwyqd
Back To Top