กรุงเทพประกันชีวิต ชวนเติมพลังใจ ใส่ใจสุขภาพจิต เนื่องในวันสุขภาพจิตโลก World Mental Health Day

กรุงเทพประกันชีวิต ชวนเติมพลังใจ ใส่ใจสุขภาพจิต เนื่องในวันสุขภาพจิตโลก World Mental Health Day

กรุงเทพประกันชีวิต ชวนเติมพลังใจ ใส่ใจสุขภาพจิต เนื่องในวันสุขภาพจิตโลก World Mental Health Day

เมื่อปี พ.ศ 2535 สหพันธ์สุขภาพจิตโลก (The World Federation for Mental Health) ได้กำหนดให้วันที่ 10 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันสุขภาพจิตโลก (World Mental Health Day) วันนี้โลกที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้หลายคนต้องพบเจอกับความเครียด ภาระทางอารมณ์ หรือ อาการอ่อนแอทางจิตใจ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโรคทางอารมณ์ อาทิ โรคซึมเศร้า (Depression) หรือ โรคแพนิค (Panic Disorder) แต่เรื่องเหล่านี้กลับไม่ได้ถูกนำมาพูดถึงมากนัก โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO พยากรณ์ไว้ตั้งแต่ปี 2011 ว่า ในราวปี 2030 โรคซึมเศร้าจะขึ้นมาเป็นสาเหตุของภาระโรคในระดับโลก และได้ประมาณตัวเลขให้ไว้ว่าการฆ่าตัวตายนั้นเป็นเหตุการตายอันดับ 2 ในกลุ่มคนอายุ 15-29 ปี สอดคล้องกับข้อมูลกรมสุขภาพจิตที่พบว่าคนไทยป่วยเป็นโรคซึมเศร้าถึง 1.5 ล้านคน และข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขในปี 2022 ยังแสดงว่าการฆ่าตัวตายเกิดขึ้นมากขึ้นในกลุ่มวัยรุ่นจากความเครียด และการ burnout ที่ก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

เห็นข้อมูลแล้วเป็นเรื่องน่าเป็นห่วงที่คนวัยหนุ่มสาวที่เป็นกำลังสำคัญของคนทุกชาติกำลังเผชิญกับภาวะความตึงเครียดสูงมาก เราจึงควรทำความเข้าใจกับปัญหาสุขภาพจิตให้มากขึ้นซึ่งเป็นเรื่องที่ป้องกันได้ เพื่อดูแลตัวเองและคนรอบข้าง วันนี้กรุงเทพประกันชีวิตขอชวนทุกคนใส่ใจดูแลสุขภาพใจให้แข็งแรง สร้างความมั่นคงทางอารมณ์ และเพิ่มความสุขในทุก ๆ วัน ลองทำตาม 6 ข้อนี้เลย

1. คุยกับคนที่เราไว้ใจ

การเสริมสร้างความสัมพันธ์ผ่านการพูดคุยเป็นวิธีหนึ่งที่ให้โอกาสเราได้สำรวจความคิดของเราเอง และได้ฟังมุมมองใหม่ ๆ หากเราได้พูดคุยกับ ครอบครัว เพื่อน พี่ หรือ เพื่อนร่วมงานที่เราไว้ใจ เรื่องใหญ่ ๆ อาจจะเป็นเรื่องที่เล็กลงและจัดการได้มากขึ้น การมีคนรับฟังในเรื่องยาก ๆ ที่เราเจอในแต่ละวันสามารถสร้างความสบายใจและบรรเทาภาระทางอารมณ์ให้เราได้ หนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดความรู้สึกเครียด หรือ ความเศร้า คือความรู้สึกโดดเดี่ยว ไม่มีใคร ไม่มีทางออก การที่เรามีคนที่เราไว้ใจ พูดคุยด้วยได้ จะช่วยทำให้ความรู้สึกด้านลบลดน้อยลง แต่หากวันใดที่เราต้องอยู่ตัวคนเดียว และมีปัญหาที่ไม่สามารถบอกให้ใครฟังได้ อย่างน้อยขอให้อยู่เคียงข้างตัวเอง ให้อภัย ไม่คิดซ้ำเติม และใจดีกับตัวเองบ้าง

2. ดูแลสุขภาพกาย

หลายคนอาจมองว่าสุขภาพกายและสุขภาพจิตเป็นเรื่องแยกกัน แต่จริง ๆ แล้วอาการทางร่างกายก็เป็นสัญญาณเตือนความเครียดทางจิตใจหรืออารมณ์ได้เหมือนกัน การขยับร่างกาย ออกกำลังกายเบาๆ หรือออกมาเดินสูดอากาศในสวนสาธารณะก็สามารถช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นได้ รวมถึงการทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ และเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพ ก็เป็นส่วนหนึ่งในการใส่ใจดูแลตัวเอง เรื่องสุดท้ายที่ลืมไม่ได้คือการพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนอย่างมีคุณภาพ หรือที่เรียกกันว่า quality sleep หรือ deep sleep มีส่วนช่วยในการลดความเครียด และช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้โดยธรรมชาติ ทั้งหมดนี้เป็นวิธีง่าย ๆ ที่เป็นพื้นฐานสำคัญในการดูแลสุขภาพกายและใจของเรา

3. เติมพลังให้กับวันของคุณ

การหากิจกรรมที่เราชอบและแบ่งเวลาให้กับกิจกรรมเหล่านั้นจะช่วยเติมความสุขให้กับเราได้ กิจกรรมเหล่านี้ไม่ได้จำเป็นต้องใช้เวลานาน แต่เป็นกิจกรรมที่มีความหมาย หรือสร้างความเพลิดเพลินให้กับเรา อย่างเช่น การทำอาหาร ปลูกต้นไม้ ใช้เวลากับสัตว์เลี้ยง ออกไปเดินเล่น วาดภาพ ดูหนัง ฟังเพลง เข้าคลาสออกกำลังกาย หรือหากยังไม่รู้ว่าจะเริ่มที่กิจกรรมอะไร ลองพูดคุยหาไอเดียกับเพื่อนและคนรอบข้าง ก็เป็นอีกโอกาสที่ในการสร้างความสัมพันธ์กับคนใกล้ตัวไปด้วย การทำกิจกรรมที่ทำให้เรารู้สึกดีจะเป็นการสร้างเส้นทางสู่การเห็นคุณค่าในตัวเองและการมองโลกในแง่ดี

4. ใช้เวลากับคนคิดบวกให้มากขึ้น

บางครั้งคนที่บั่นทอนอารมณ์ของเราอาจจะเป็นคนใกล้ตัว คนในครอบครัว หัวหน้างาน หรือเพื่อนร่วมงาน ซึ่งหลายครั้งอาจจะทำให้เรารู้สึกหมดกำลังใจ การใช้เวลากับคนที่คิดบวกจะช่วยทำให้เรารู้สึกดีขึ้น เพราะอารมณ์เป็นสิ่งที่ส่งถึงกันได้ หากเรารายล้อมตนเองด้วยคนที่คิดลบหรือมองเห็นแต่อุปสรรคปัญหา จะส่งผลให้เกิดความรู้สึกไม่ดีไปด้วยและอาจจะทำให้ขาดแรงจูงใจในการใช้ชีวิต ในทางกลับกัน คนที่คิดบวกจะช่วยให้เรามองเห็นทางออก และช่วยเติมกำลังใจให้เราได้ ซึ่งในระยะยาวจะช่วยให้เรามีภูมิต้านทานทางอารมณ์ที่แข็งแกร่งขึ้น

5. อยู่กับปัจจุบัน

คำว่า “อยู่กับปัจจุบัน” อาจจะฟังดูจับต้องได้ยาก แต่การอยู่กับปัจจุบันเริ่มต้นได้ที่ลมหายใจของเรา เมื่อเจอกับปัญหา หรือสถานการณ์ที่ยาก ความคิดในหัวเราอาจจะวิ่งวนจนทำให้เรารู้สึกท่วมท้นไปด้วยความกังวล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในอดีตที่อยากกลับไปแก้ไข หรือเรื่องในอนาคตที่ไม่แน่นอน การพาตัวเองกลับสู่ปัจจุบันผ่านการหายใจเข้า-ออก ลึก ๆ โดยใช้เทคนิคหายใจ 4-7-8 เพื่อคลายเครียดและยังช่วยให้หลับสบาย สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการหายใจเข้า 4 วินาที กลั้นไว้ 7 วินาที และผ่อนลมหายใจ 8 วินาที การหายใจแบบนี้นอกจากจะเป็นการเติมออกซิเจนให้กับร่างกายและสมอง ยังเป็นการช่วยให้เราอยู่กับปัจจุบันได้มากขึ้นซึ่งจะช่วยลดระดับความเครียดได้อย่างดี

6. เขียนบันทึกความรู้สึกขอบคุณ

ในแต่ละวันเราอาจจะพบเจอเรื่องดี ๆ มากมาย แต่เรื่องเหล่านั้นอาจจะถูกบดบังด้วยเรื่องหนักใจที่เราเจอเพียงไม่กี่เรื่อง การเขียนบันทึกความรู้สึกขอบคุณจะช่วยเตือนให้เรานึกถึงสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้น หรือมีอยู่ในชีวิตเราแต่เราลืมนึกถึง วิธีการเขียนบันทึกขอบคุณทำได้ง่าย ๆ ด้วยนึกถึงสิ่งที่เราอยากขอบคุณและเขียนลงในสมุดโน้ต หรือถ้าไม่แน่ใจว่าจะเริ่มเขียนยังไง ลองมองหา Gratitude Journal หรือสมุดบันทึกความรู้สึกขอบคุณ ที่มีคำถามตั้งตนให้เราตอบ การเขียนขอบคุณสามารถเป็นเรื่องเล็ก ๆ อย่างเช่น ขอบคุณที่เมื่อคืนนอนหลับสบาย ขอบคุณเพื่อนร่วมงานที่มาแบ่งขนมให้เรา ขอบคุณที่เรามีครอบครัวหรือเพื่อนที่คอยอยู่ข้าง ๆ การเขียนบันทึกความรู้สึกขอบคุณเป็นเครื่องมือเล็ก ๆ ที่ทรงพลัง ช่วยลดความเครียด และทำให้เราเปิดใจในการรับพลังบวกและความรู้สึกดี ๆ จากสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตที่เราอาจมองข้ามไป

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแนวทางการป้องกันที่ทุกคนสามารถทำได้เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับจิตใจ อย่างไรก็ตามหากรู้สึกว่าตัวเราหรือคนใกล้ชิดมีภาวะความตึงเครียดจนอาจนำไปสู่โรคซึมเศร้า นอกเหนือจากการสังเกต ใส่ใจ และรับฟังโดยไม่ตัดสินแล้ว การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตก็จะเป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดีในการผ่านช่วงความยากลำบากทางจิตใจ และเนื่องในวันสุขภาพจิตโลก กรุงเทพประกันชีวิต ขอชวนทุกคนมาร่วมกันดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจให้แข็งแรง และขอเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังเจอกับปัญหาทางใจ ได้พบกับความเข้มแข็งและพลังใจในชีวิต

ที่มา:

– ศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ

– https://dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=31459

– The Instant Mood Fix by Olivia Remes

– https://www.who.int/westernpacific/about/how-we-work/pacific-support/news/detail/07-10-2021-6-ways-to-take-care-of-your-mental-health-and-well-being-this-world-mental-health-day

ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ที่เมล์ : pr@prfreeonline.com Line : @649dwyqd
Back To Top